บุฟเฟ่ต์มื้อเช้า ด้วยความที่เริ่มรู้แล้ว ว่าไม่ควรตักอะไรแปลกๆที่เหมือนวันอื่นมากิน เลยหาอะไรกินที่เบสิคที่สุด
เดินทางไปคัปปาโดเกีย ที่ๆกำลังจะไป เป็นเมืองที่เป็นมรดกโลกในปี 1985 ปีที่เราเกิดเลย เป็นธรรมชาติที่สรรค์สร้างออกมาได้อย่างสวยงาม แปลกตา เกิดจากภูเขาไฟระเบิดมา 2 ล้านปี แล้วลาวาพอเย็นตัวลง ก็กลายเป็นชั้นหินชั้นดินที่เป็นรูปคลื่น เป็นแท่งบ้าง รูปเห็ด รูปเจดีย์บ้าง
แวะพักเข้าห้องน้ำที่จุดพักขบวนสินค้าโบราณในสมัยจักรวรรดิ ออตโตมันในอดีต ข้างในไม่ใหญ่มาก
ข้างในปัจจุบันเป็นที่ขายของ กินชา
แวะอีกจุด เครื่องประดับ Pandora
แวะพักกินข้าวเที่ยง
ลงถ่ายรูปจุดชมวิวระหว่างทาง
มันก็ดู Slowlife ดีนะ จิบชากลางหน้าผา
ไปกันต่อที่นครใต้ดินคาร์ตัค (Cardak Underground City) เกิดจากการขุดเจาะพื้นดินสมัยก่อนตอนเกิดสงคราม
มีขายผ้า ตากๆไว้ มันก็เก๋ตรงนี้เป็นจุดถ่ายรูปสวยงาม
และที่นี่แมวน่ารักทุกตัว และเชื่องมากกกกกกกก
เข้าไปสู่ภายในเป็นเหมือนถ้ำ แต่เป็นสิ่งที่คนสร้างขึ้น
แขวนดวงตาไว้ทางเข้า ป้องกันสิ่งชั่วร้าย
อากาศในถ้ำก็หนาวมาก แมวเค้าก็ต้องการความอบอุ่น
ในนี้จะแบ่งเป็นห้องต่างๆทั้งห้องนอน ห้องครัว ห้องน้ำ ห้องอาหาร โดยห้องที่ไว้เก็บเสบียงเป็นห้องที่มีอุณหภูมิเย็นชนิดที่ว่ารักษาอาหารไว้ได้ และเค้าจะเอาห้องเด็กไว้ด้านล่าง เพื่อไม่ให้ศัตรูได้ยินเสียงเด็กร้อง เค้าจะขุดลงไปเรื่อยๆ ให้เจอแหล่งน้ำ เพื่อใช้ในการดำรงชีวิต
มีห้องสำหรับเลี้ยงสัตว์ เค้าจะเจาะผนังเข้าไปให้สัตว์อยู่ได้ แต่ปัจจุบันก็กลายเป็นที่นอนเจ้าแมวเหมียวไปเรียบร้อย
การขุดทางลงไปข้างล่างเรื่อยๆ เค้าจะไม่ขุดเป็นทางตรง แต่จะขุดให้เบี้ยวไปเบี้ยวมา เพื่อเลี่ยงอาวุธจากศัตรู
ด้านบนเค้าจะเจาะรูบนผนังเอาไว้ สำหรับมีอากาศหายใจด้ายนล่าง และยังทำประตูหินเอาไว้ สำหรับเปิดได้จากด้านในอย่างเดียว
ตอนเข้าไปเหมือนจะลำบาก แต่ตอนออกง่ายจัง
ไปแวะกันต่อที่โรงงานทอพรม
ก็จะมีทั้งแบบทอมือกับเครื่องทอ ซึ่งราคาก็แพงมาก เค้าบอกว่าเวลาในการทอไม่ได้ขึ้นอยู่กับผืนเล็กผืนใหญ่ มันอยู่ที่ความยากง่าย
แต่ละผืนคือสวยเลย แต่ไม่มีเงินซื้อ 555 บางผืนมีหลายสีเมื่อมองจากหลายมุม
ก็ได้แต่จิบชากันไป
เข้าโรงแรมไววันนี้ พักที่ Ramada Cappadocia
เชฟเป็นคนจีน ทำผัดหมี่จีน อร่อยสุดละ
เดินทางไปดูระบำหน้าท้อง
จริงๆบางกรุ๊ปเค้าก็กินข้าวกันที่นี่ กินไปดูไปไม่เบื่อ แต่ของเราคือกินข้าวโรงแรมแล้ว ก็มากินแค่กับแกล้มนิดหน่อย
มีไวน์ มีเหล้า กินได้
ลองชิมที่เค้าว่าเป็นแอลกอฮอล์ 40 ดีกรี ผสมน้ำเปล่า รสชาติหยึยมาก เหมือนยาเลย
แล้วก็ดูการแสดงอีกประมาณ 2 ชั่วโมงได้ ก็ดูไปเพลินๆ บางคนทัวร์อื่น ไม่เปิดใจในวัฒนธรรม ก็จะหาว่า ดูอะไรก็ไม่รู้ แต่ถ้าเปิดใจจะก็เห็นกลิ่นอายของวัฒนธรรมในแต่ละประเทศนั่นแหละ ก็มีการแสดงแบบต่างๆ และมีระบำหน้าท้อง Belly Dance ไปดูจากคลิปได้
จบวันที่เหนื่อยกับการเดินทางจนแอบวูบไปช่วงอยู่ร้านพรม และต้องรีบนอน เพราพรุ่งนี้ เราจะไปขึ้นบอลลูนกัน