9 Feb 2019
หลังจากไม่ได้นอนทั้งคืน….
เราก็ตื่นมาแต่งตัวเช้าเวอร์…
ตื่นมากดแอพดิสนีย์ จอง Fast Pass ที่ไม่ค่อยเหลืออะไรให้จอง
ออกจากห้องแต่เช้ามืด เช้ามาเจอวิวแบบนี้ แล้วเหมือนได้เติมเต็มชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง แม้ไม่ได้นอน อยากตื่นขึ้นมาเจอแบบนี้ทุกเช้า นี่คือ Bay Lake จะมี Bay Lake Tower อยู่ข้างๆ
ที่โรงแรมมีทางให้วิ่งออกกำลังกายด้วย คือดี
เดินจากรีสอร์ท มาในส่วนโรงแรม
เนื่องจากหิวมาก เราเลยเลือกกินที่โรงแรม ก่อนที่จะไปสวนสนุก ขึ้นไปชั้นบนสุด เข้า Contempo Cafe ข้างๆกันนั้นมีร้าน Chef Mickey’s ซึ่งจะกินในวันต่อๆไป
ตรงที่นั่งกินนี้ก็สามารถที่จะเห็น Monorail ซึ่งวิ่งไปปาร์คได้ ซึ่ง Monorail นี้ทางเข้าอยุ่ชั้นเดียวกัน
สั่งอาหารแล้วมานั่งรอ สังเกตว่ามีไมโครเวฟให้อุ่นด้วย
เก้าอี้ก็ยังเป็นมิกกี้
สังเกตดู ตัวใบเสร็จจะมีบอกด้วยว่าพนักงานคนไหนเป็นคนออเดอร์ให้เรา ซึ่งมันก็สะดวกต่อการไปตาม
เมนูที่เราสั่งเป็น Waffle Bacon เราว่าแป้งวาฟเฟิลของที่นี่ทำอร่อย มันจะเค็มๆปะแล่มๆนิดๆ แล้วเบคอนกรอบมาก คืออาหารธรรมดา ทำไมรู้สึกอร่อย หรือหิว
จานนี้ของแฟนเรา
มีตู้กด Presscoin สำหรับคนที่ชอบสะสมพวกเหรียญๆทั้งหลาย
มีร้านขายของชำเล็กๆ Fantasia Market ขายทุกอย่างตั้งแต่ขนม ของกิน ของฝาก ของใช้ส่วนตัว
ไปขึ้น Monorail จากตัวโรงแรมได้เลย ก่อนขึ้น Monorail จะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจกระเป๋าก่อน การขึ้น Monorail จาก Contemporary Resort ไป magic Kingdom จะค่อนข้างอ้อมๆ ทั้งที่ใกล้นิดเดียว แถมยังต้องแวะจอดรับผู้โดยสาร จากโรงแรมอื่นด้วย ทำให้รู้สึกนานกว่าจะถึง แต่ก็คิดว่าได้ดูวิวไป
Monorail จะแวะจอดสถานีนึง ซึ่งเป็นสถานีตรงกลาง จะเรียกว่า Transportation and Ticket Center (TTC) จะมีรถไฟเปลี่ยนไป Epcot ได้ หรือจะเดินทางโดยเรือได้
ถึงแล้ว Magic Kingdom ประชากรหนาแน่นมาก คือเตรียมใจแต่แรกแล้วว่า จะไม่ชิล คนจะไม่น้อย
เค้าให้โหลด Crowd calendar 2019 มาดู เพื่อประเมิณปริมาณคน แต่ก็ไม่ได้ทำมา
เมื่อถึงแล้วทุกคนต้องให้เจ้าหน้าที่ตรวจกระเป๋าอีกรอบ ถ้าอยากให้ไว หยิบกระเป๋าเล็กๆออกมารูดซิปออกให้เค้าดูได้เลย พอผ่านจุดเช็คกระเป๋า ก็จะเป็นจุด แสกนตั๋ว หรือ แสกน Magic Band แล้วแกนนิ้ว
จุดแรกที่ถ่ายรุปจะเป็นจุดด้านหน้านี้เลย เพราะวอลท์ชอบรถไฟ เค้าก็เลยเอาสถานีรถไฟมาอยู่ด้านหน้าแบบนี้
เดินเข้าไปด้านในกัน
ดิสนีย์เวิลด์ เค้าจะมีช่างถ่ายภาพ อยู่ตามจุดต่างๆ สามารถใช้กล้องเรา ขอให้เค้าถ่ายให้ และใช้กล้องเค้า เพื่อถ่ายให้เราได้ ถ่ายเสร็จเค้าจะแสกนรูปเข้า Magic Band ของเรา เราว่าฝีมือการถ่ายนี่คือแล้วแต่คนเลย บางคนก็ถ่ายดีบางคนฝีมือก็เฉยๆ หรือเวลาเราเล่นเครื่องเล่นอะไร มันก็จะถ่ายให้เรา แล้วเราเอา Magic band ไปแสกนตามจุดรับรูป เราก็จะได้รูปมา
รูปที่เค้าถ่ายให้เรา มันจะเรียกว่า Photopass ซึ่งมันจะเด้งเข้าไปเชื่อมกับแอพดิสนีย์ด้วย ซึ่งเราสามารถซื้อได้ ซึ่งมันก็จะเป็นลายน้ำ จนกว่าเราจะซื้อ เค้าจะเรียกว่า Memory Maker มันจะเลือกได้ว่าซื้อรูปรายวัน หรือซื้อรูปเหมาตลอดทุกวันที่ถ่าย เพราะฉะนั้น ถ้าถ่ายเยอะมันก็จะคุ้ม ของเรา Unlimited Download รวมทุกวันมันอยู่ที่ 6,900 บาทไทย เราว่ามันไม่คุ้ม เลยไม่ได้ซื้อมา เพราะเราถ่ายไม่เยอะ
เห็นปราสาทแล้ว คือความสมความปรารถนา
ภาพนี้คือสุดยอดที่ทุกคนต้องมาถ่าย คุณวอลท์ กับคุณมิกกี้ แล้วดูฟ้าสิ โคดใส วันที่ไปวันนี้อากาศแบบไทยเลย แต่อากาศดีมาก
โซนแรกที่เราเดินเป็น Tomorrow Land
ตอนแรกเราจอง Fastpass ไว้ แแต่เห็นว่าคิวแค่ 15 นาที แล้วเพิ่งถึงคือไม่รู้จะเริ่มอะไรก่อน ก็เลยเดินเข้าไปเล่นอย่างแรก ต่อคิวแบบแป๊บเดียวจริงๆ
เป็นการเปิดเครื่องเล่นแรกที่เร้าอารมณ์สุด กรี๊ดตั้งแต่เข้าไปยันจบ กรี๊ดแล้วเหนื่อยก็หยุดกรี๊ด ถือโกโปรไปด้วยนี่คือไม่เห็นอะไรเลย นอกจากเสียงกรี๊ด
ด้วยความอยากมุ้งมิ้ง เลยไปซื้อหูมาใส่ หูเดียวตลอดทริป หูนึงก็ประมาณ 27$ แล้ว
เดินๆไป เอ้า เจออลิสกระโดดโลดเต้นอยู่
มันก็จะมีคาเฟ่ที่เป็นธีมต่างๆ ที่ต้องจองก่อน เพราะบางทีมันก็จะเต็ม
มีนกเดินเล่นรออาหารเยอะมาก เหมือนนกดัมโบ้เลย 55
ตอนแรกว่าจะเล่นอันนี้ จอง Fastpass ไว้ Splash Mountain แต่เห็นแล้วดูเปียกแน่นอน แล้วไม่อยากเปียก เลยขอแค่ดูเฉยๆแล้วกัน
เลยไปเข้า Pirates of the Caribbean แทน เหมือนเช้าอยู่ คิวเลยไม่มาก
ซึ่งดูจากในแอพ มันจะบอกหมดแหละ ว่าเครื่องเล่นที่เราจะเล่นอยู่ตรงไหน แผนที่มันกว้างไกล ซูมเข้าซูมออกไปปาร์คอื่นได้ด้วย อิงจาก google map นั่นแหละ
บอกทางไปด้วยจ้า ไม่หลงแน่นอน
คือมันจะบอกหมดในสิ่งที่ควรรู้ ทำให้ง่าย ไม่ต้องไปยึกยักด้านหน้า เหมาะกับความสูงเท่าไหร่ อายุเท่าไหร่ น่ากลัวขนาดไหน เครื่องเล่นนี้เวลาเปิดปิดในวันนั้นกี่โมง มันมีอัพเดทให้หมด
ออกแนวลงเรือ ดิบๆ เถื่อนๆหน่อย
ต่อไปเป็น Jungle Cruise อันนี้ต่อคิวนาน ประมาณ ชั่วโมง หรือชั่วโมงครึ่งได้ อารมณ์ล่องเรือชมป่า ชมสัตว์พ่นน้ำ
เจอเจ้าหญิงจัสมิน กับอะลาดินแล้ว
ทำการบ้านเรื่องขนมที่ต้องกินมาพอสมควร และนี่เป็นสิ่งที่ต้อง ต้อง ต้อง กิน
สิ่งนี้เรียกว่า Dole Whip ถึงเราจะทำการบ้านมาแล้วเราก็ยังคิดว่ามันเป็นวิปครีม ด้วยความที่รูปร่างหน้าตาและความเข้มข้นของมัน แต่พอกินจริงๆ มันเป็นเหมือนซอฟไอศกรีมรสสับปะรด ที่มีความละมุนมากๆ
ที่ร้านจะมีขายเป็นน้ำสับปะรด น้ำสับปะรดโปะ Dole Whip ดีที่สั่งแค่นี้ เพราะกำลังพอดีสำหรับ 1 คน
หลังจากของหวาน เดินไปเดินมาเริ่มหิว เลยต้องหาที่นั่งกิน ไปเจอร้านนี้เข้าขาย Hot Dog แบบง่ายๆ
พนักงานใส่ชุดเบสบอล
คือไม่รู้ว่าอะไรอร่อย ก็เลยสั่งมั่วๆมา แต่ด้วยความที่เหนื่อยไม่ได้นอน แล้วกลิ่นมันเหมือนเครื่องเทศแรงๆเลยไม่ค่อยชอบ กินไม่ค่อยลง
น้ำมะนาวที่สั่งมาก็หวานไป แล้วมีกลิ่นประมาณมินท์แรงๆ ไม่ค่อยชอบอีก
สรุปคือเป็ดมาช่วยกินไป
ระหว่างกิน มีโชว์เปียโน และ Entertain เพื่อความบันเทิง น่ารักตรงที่คนอายุมากๆแล้ว ก็ยังได้รับการจ้างงานให้มาทำอะไรแบบนี้
คือจากที่กินอะไรไม่ค่อยลง แต่บันเทิงเพราะสิ่งนี้นี่แหละ
เดินลอดผ่านปราสาทซินเดอเรล่า
ที่อินจัดๆเรื่องดิสนีย์ก็จะเป็น Little Mermaid อยากเป็น Mermaid เพราะ Mermaid มีเสียงที่เพราะ
แค่รอคิวนี่ก็อินกับเพลงประกอบตอนรอคิวละ ร้องได้ทุกเพลง 555 ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในทะเลจริงๆ
อันนี้ต่อคิวนานอยู่ เป็นชั่วโมง Under the Sea – Journey of the Little Mermaid
นี่คือ Gaston เรื่อง Beauty & The Beast ตอนแรกก็งงว่านี่ใคร คือเจ้าชายใน Disney ดูมีบทบาทน้อยมากอะ แต่นี่มีรูปปั้นอยู่แสดงว่ามากอยู่
ไปต่อคิวประมาณชั่วโมงกว่าๆที่ Enchanted Tales with Belle หลังจากดูรีวิวแล้ว คือต้องเข้าเลย
ฝรั่งข้างหน้าคือ แต่งตัวมาแบบสีเหลืองทำผมเหมือนเบล นางเอารองเท้าส้นสูงมาเปลี่ยนด้วย เพื่อจะมาหาเบล
เข้าบ้านเบล นางชอบอ่านหนังสือ
เข้าไปถึงเจอตู้เสื้อผ้า ขยับได้ น่าร๊ากกกกก มีการเลือกเด็กๆ และผู้ชายให้ออกไปแสดง คือน่ารัก และมีส่วนร่วม
ที่ประทับใจคือไฟขยับได้ แบบเนียนมาก
คือชอบมาก อยากเอาไฟกลับบ้าน
เบลออกมาแล้ว สวยยังกะนางงาม
ต้องเป็นเจ้าหญิงถึงจิตใจอะ
ใจดีและอบอุ่น
จอง Fast pass Haunted Mansion ไว้ตอนประมาณบ่าย 3 เลยรีบไป หลังจากดูรีวิวแล้วไม่ได้น่ากลัวมาก เลยกล้าเข้า
มีเข้า Hall of President ไป แต่ดูจากรีวิวแล้วเฉยๆ เลยไม่ได้เข้าไปดู
ด้วยความที่ไม่ได้นอนทั้งคืน เลยไม่ไหวละ ขอกลับไปนอนก่อน
ลูกโป่งแบบเนี้ย ก็คือไปขอเค้าถ่ายรูปเล่นได้
ระหว่างเดินออกก็เจอขบวนพาเหรดพอดี หยุดดูไปอีก
ตอนแรกกะว่าจะไปนอนแป๊บเดียวแล้วค่อยออกมากินข้าวเย็นแล้วดูพลุตอนกลางคืน ก็เลยกลับห้อง แล้วไม่ได้อาบน้ำ นอนทั้งชุดเที่ยวแบบนั้น เพราะคิดว่าจะได้ออกมาอีก
สรุปหลับยาว Jetlag ไปทั้งแต่งหน้าแบบนั้นยันเช้าจ้า เมื่อได้ยินเสียงพลุตอน 2-3 ทุ่ม แล้วลืมตาขึ้นมานิดนึงแล้วบอกกันว่าไม่ทันแล้วจ้า พรุ่งนี้ค่อยเที่ยวกันใหม่….